
MITRSTEEL

MITRSTEEL
ท่อเหล็กมาตรฐาน ASTM A53/ A795
สินค้าท่อเหล็กทนแรงดันภายใต้แบรนด์ มิตรสตีล มีครบทุกขนาดทุกสเปค เหมาะสำหรับงานโครงการของลูกค้าที่หลากหลาย ครบจบในที่เดียว
ท่อเหล็กทนแรงดันทั้งแบบมีตะเข็บ (ERW) และไม่มีตะเข็บ (Seamless) ท่อเหล็กทนแรงดันชุบกัลวาไนซ์ ผลิตตามมาตรฐานสากล ASTM A53 Sch.10/ Sch.40/ Sch.80/ Sch.160 และ ASTM A795
ท่อเหล็กทนแรงดันทั้งแบบมีตะเข็บ (ERW) และไม่มีตะเข็บ (Seamless) ท่อเหล็กทนแรงดันชุบกัลวาไนซ์ ผลิตตามมาตรฐานสากล ASTM A53 Sch.10/ Sch.40/ Sch.80/ Sch.160 และ ASTM A795
ท่อเหล็กทนแรงดันทั้งแบบมีตะเข็บ (ERW) และไม่มีตะเข็บ (Seamless) ท่อเหล็กทนแรงดันชุบกัลวาไนซ์ ผลิตตามมาตรฐานสากล ASTM A53 Sch.10/ Sch.40/ Sch.80/ Sch.160 และ ASTM A795


หมดกังวลเรื่องการเลือกใช้สเปคและการจัดหาสินค้า
ทางบริษัทมิตรสตีลมีทีมงานที่จะช่วยแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับการเลือกใช้สินค้าของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างทั่วไป งานท่อทนแรงดันสูงสำหรับงานประปาหรืองานน้ำมัน รวมถึงงานสเปคพิเศษอื่นๆ ที่ทางลูกค้าต้องการ
ขอคำแนะนำสเปคและราคา


เรามีสินค้าครบทุกขนาด ทุกความหนา หรือ Schedule ที่ลูกค้าต้องการ
สินค้าสต๊อกท่อ ASTM A53 / A795 ครบ หลากหลายความหนาพร้อมเสนอเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
ดูตารางขนาด


ลูกค้าสามารถมั่นใจสินค้าภายใต้แบรนด์ มิตรสตีล สินค้าคุณภาพสูง ผลิตและได้รับมาตรฐานสากล
ท่อ ASTM A53 Grade A / B และ ท่อ ASTM 795 ทุกท่อน ผลิตและทดสอบตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งการทดสอบ Hydrostatic Test 100% มั่นใจได้อย่างแน่นอน
เช็คมาตรฐานการทดสอบคุณภาพของเรา


สเปคแม่นยำ
สเปคแม่นยำ
สำหรับวิศวกรรม
สำหรับวิศวกรรม
รับรองคุณภาพ
รับรองคุณภาพ
ส่งไวตรงนัด
ส่งไวตรงนัด



สินค้าคุณภาพสูง มาตรฐานสากล
สินค้าคุณภาพสูง มาตรฐานสากล
ผลิตและทดสอบโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญมิตรสตีล
มั่นใจทุกการใช้งาน ด้วยท่อเหล็กที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอน
ผ่านการทดสอบแรงดันน้ำ (Hydrostatic Test): ทุกเส้นผ่านการผลิตและทดสอบตามมาตรฐาน ASTM A53 100%
ควบคุมส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Composition)
ทดสอบคุณสมบัติเชิงกล (Mechanical Properties): ผ่านการทดสอบ Tensile Strength และ Yield Strength เพื่อให้มั่นใจว่าท่อรับแรงได้ตามสเปค
ตรวจสอบตะเข็บด้วย Eddy Current: สำหรับท่อ ERW เพื่อความสมบูรณ์ของรอยเชื่อม


สินค้าคุณภาพสูง มาตรฐานสากล
ผลิตและทดสอบโดยทีมงาน ผู้เชี่ยวชาญมิตรสตีล
มั่นใจทุกการใช้งาน ด้วยท่อเหล็ก ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอน
ผ่านการทดสอบแรงดันน้ำ (Hydrostatic Test): ทุกเส้นผ่านการผลิตและทดสอบตามมาตรฐาน ASTM A53 100%
ควบคุมส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Composition)
ทดสอบคุณสมบัติเชิงกล (Mechanical Properties): ผ่านการทดสอบ Tensile Strength และ Yield Strength เพื่อให้มั่นใจว่าท่อรับแรงได้ตามสเปค
ตรวจสอบตะเข็บด้วย Eddy Current: สำหรับท่อ ERW เพื่อความสมบูรณ์ของรอยเชื่อม

แหล่งความรู้
สเปคชีท pdf
เอกสารสเปค

แหล่งความรู้
สเปคชีท pdf
เอกสารสเปค

MITRSTEEL

MITRSTEEL

MITRSTEEL
เลือกท่อที่ใช่ ตอบโจทย์ทุกการออกแบบทางวิศวกรรม
เลือกท่อที่ใช่ ตอบโจทย์ทุกการออกแบบทางวิศวกรรม
เลือกท่อที่ใช่ ตอบโจทย์ทุกการออกแบบทางวิศวกรรม
เปรียบเทียบตารางสเปค ท่อมีตะเข็บ (ERW) และไร้ตะเข็บ (Seamless)





เลือกดูสเปคตามประเภทท่อ
เลือกดูสเปคตามประเภทท่อ
ท่อมีตะเข็บ (ERW): เหมาะสำหรับงานระบบน้ำ ระบบดับเพลิง และงานโครงสร้างทั่วไป คุ้มค่าและผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน ASTM A53
ท่อไร้ตะเข็บ (Seamless): ทนทานต่อแรงดันและอุณหภูมิสูง ไม่มีรอยเชื่อม เหมาะสำหรับงานส่งก๊าซ น้ำมัน และระบบไอน้ำ
ท่อมีตะเข็บ (ERW): เหมาะสำหรับงานระบบน้ำ ระบบดับเพลิง และงานโครงสร้างทั่วไป คุ้มค่าและผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน ASTM A53
ท่อไร้ตะเข็บ (Seamless): ทนทานต่อแรงดันและอุณหภูมิสูง ไม่มีรอยเชื่อม เหมาะสำหรับงานส่งก๊าซ น้ำมัน และระบบไอน้ำ
ดาวน์โหลดแคตตาล็อก
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับท่อเหล็ก
หมวด: มาตรฐานและศัพท์เทคนิค
มาตรฐานท่อเหล็ก ASTM A53 คืออะไร?
ASTM A53 เป็นมาตรฐานสำหรับท่อเหล็กคาร์บอนที่ใช้ในงานระบบเครื่องกลและงานที่ต้องรับแรงดัน. มาตรฐานนี้ครอบคลุมท่อทั้งแบบมีตะเข็บ (Welded, Type E) และไม่มีตะเข็บ (Seamless, Type S). สามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบท่อดำ (Black Pipe) และท่อชุบสังกะสี (Hot-Dipped Galvanized). ท่อตามมาตรฐานนี้เหมาะสำหรับงานเชื่อม, การดัดโค้ง, และการทำหน้าแปลน.
Schedule" (SCH) ของท่อเหล็กคืออะไร? เช่น SCH 40 และ SCH 80
Schedule (SCH) คือค่าที่ใช้กำหนดความหนาของผนังท่อ (Wall Thickness). เมื่อตัวเลข Schedule สูงขึ้น ความหนาของผนังท่อก็จะมากขึ้นสำหรับขนาดท่อ (NPS) เดียวกัน. ยกตัวอย่างเช่น ท่อ SCH 80 จะมีผนังหนากว่า, เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) เล็กกว่า, และน้ำหนักมากกว่าท่อ SCH 40 ที่ขนาด NPS เท่ากัน.
NPS และ DN คืออะไร?
NPS (Nominal Pipe Size) และ DN (Nominal Diameter) เป็นรหัสที่ใช้เรียกขนาดท่อ. • NPS เป็นระบบมาตรฐานของอเมริกาที่ใช้หน่วยเป็นนิ้ว. สำหรับท่อขนาด NPS 12 และเล็กกว่า เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (OD) จะมีค่ามากกว่าตัวเลข NPS. ส่วนท่อขนาด NPS 14 ขึ้นไป ค่า OD จะเท่ากับตัวเลข NPS. • DN เป็นระบบเมตริก (SI) ที่ใช้ในระดับสากล.
ท่อมีตะเข็บ (Welded/ERW) และไม่มีตะเข็บ (Seamless) ต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างหลักอยู่ที่กระบวนการผลิตและคุณสมบัติการใช้งาน: • ท่อมีตะเข็บ (ERW - Electric Resistance Welded): ผลิตโดยการนำแผ่นเหล็กมาม้วนแล้วเชื่อมติดกันตรงรอยต่อ. เหมาะสำหรับงานที่รับแรงดันไม่สูงมาก เช่น ท่อน้ำประปา, ท่อลำเลียงทั่วไป. ตามมาตรฐาน ASTM A53 Grade B รอยเชื่อมของท่อ ERW จะต้องผ่านการอบชุบด้วยความร้อน (Heat Treatment) เพื่อเพิ่มความทนทาน. • ท่อไม่มีตะเข็บ (Seamless): ผลิตโดยการเจาะแท่งเหล็กตันให้เป็นท่อกลวง ทำให้ไม่มีรอยเชื่อมต่อ. ด้วยเหตุนี้จึงมีความทนทานต่อแรงดันและความร้อนสูงได้ดีกว่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ระบบแก๊ส, น้ำมัน, ไอน้ำ, และระบบดับเพลิง.
หมวด: การเลือกใช้งาน
ASTM A53 Grade A และ Grade B ต่างกันอย่างไร ควรเลือกใช้อย่างไร?
Grade A และ Grade B แตกต่างกันที่ส่วนประกอบทางเคมีและคุณสมบัติเชิงกล ส่งผลให้การใช้งานแตกต่างกัน: • Grade B: มีปริมาณคาร์บอนและแมงกานีสสูงกว่า ทำให้มีความแข็งแรงทนทานสูงกว่า Grade A. มีค่า Yield Strength ขั้นต่ำ 35,000 psi (240 MPa) และ Tensile Strength ขั้นต่ำ 60,000 psi (415 MPa). เหมาะสำหรับงานที่เน้นการรับแรงดันและต้องการความแข็งแรงเป็นหลัก เช่น ระบบส่งไอน้ำ, ก๊าซ, น้ำมัน, และระบบท่อดับเพลิง. • Grade A: มีความเหนียว (Ductility) ดีกว่า และมีส่วนประกอบทางเคมีที่ "ปานกลาง" กว่า. มีค่า Yield Strength ขั้นต่ำ 30,000 psi (205 MPa) และ Tensile Strength ขั้นต่ำ 48,000 psi (330 MPa). เหมาะสำหรับงานที่ต้องมีการดัดเย็น, ม้วน, หรือขึ้นรูปอื่นๆ เป็นหลัก เช่น ระบบประปาและท่อระบายน้ำ.
ควรเลือกใช้ท่อ SCH 40 หรือ SCH 80 เมื่อไหร่?
การเลือกขึ้นอยู่กับแรงดันและการใช้งานเป็นหลัก: • SCH 40: เป็นความหนามาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในงานก่อสร้างและระบบท่อต่างๆ. เหมาะสำหรับงานที่รับแรงดันในระดับปกติ เช่น ระบบน้ำประปา, ระบบน้ำทิ้ง, และงานโครงสร้างเบา. • SCH 80: มีผนังท่อที่หนากว่า จึงสามารถรับแรงดัน (PSI) ได้สูงกว่า SCH 40 มาก. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานต่อแรงดันสูงเป็นพิเศษ หรือในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งจะทำให้ค่าการรับแรงดันของท่อลดลง.
ท่อเหล็กดำ (Black Pipe) กับ ท่อกัลวาไนซ์ (Galvanized Pipe) เลือกใช้อย่างไร?
• ท่อเหล็กดำ: คือท่อเหล็กคาร์บอนที่ไม่มีการเคลือบผิวป้องกันสนิม มีสีเข้มจากไอรอนออกไซด์. เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องสัมผัสน้ำหรือความชื้นโดยตรง เช่น ท่อส่งแก๊ส, ระบบดับเพลิง (เนื่องจากทนความร้อนได้ดี), หรือท่อในระบบทำความร้อน-ความเย็น. ไม่เหมาะกับงานประปาที่ใช้บริโภคเพราะเกิดสนิมได้ง่าย. • ท่อกัลวาไนซ์: คือท่อเหล็กที่ผ่านการ เคลือบสังกะสี เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและสนิม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสความชื้น เช่น ท่อน้ำประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ราวกันตก, และโครงสร้างภายนอกอาคาร. อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้กับท่อส่งแก๊สเพราะสังกะสีอาจหลุดร่อนไปอุดตันระบบได้.
ASTM A53 ใช้ในงานระบบดับเพลิงได้หรือไม่?
ได้ครับ ท่อ ASTM A53 เป็นหนึ่งในมาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับงานระบบดับเพลิง โดยเฉพาะ ท่อ ASTM A53 SCH 40. นอกจากนี้ สำหรับระบบดับเพลิงบางประเภท อาจใช้ ท่อเหล็กดำ SCH 10 ตามมาตรฐาน ASTM A795 ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับงานดับเพลิงโดยเฉพาะและได้รับการรับรองมาตรฐานสากล.
หมวด: คุณสมบัติและการทดสอบ
ท่อเหล็กตามมาตรฐาน ASTM A53 ต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง?
ท่อเหล็ก ASTM A53 ต้องผ่านการทดสอบที่สำคัญหลายอย่างเพื่อรับรองคุณภาพ ได้แก่: • การทดสอบแรงดันน้ำ (Hydrostatic Test): ท่อทุกเส้นต้องผ่านการทดสอบนี้เพื่อให้แน่ใจว่าไม่รั่วซึมภายใต้แรงดันที่กำหนด. • การทดสอบคุณสมบัติเชิงกล (Mechanical Tests): เช่น การทดสอบแรงดึง (Tensile Test) เพื่อวัดค่า Yield และ Tensile Strength, และการทดสอบการกดแบน (Flattening Test) หรือการดัดโค้ง (Bending Test) เพื่อประเมินความเหนียวและความสมบูรณ์ของรอยเชื่อม (สำหรับท่อ ERW). • การทดสอบแบบไม่ทำลาย (Nondestructive Electric Test): เช่น การใช้กระแสไหลวน (Eddy Current) เพื่อตรวจสอบรอยตำหนิที่ตะเข็บท่อ.
ค่าความคลาดเคลื่อน (Tolerance) ของความหนาและขนาดท่อเป็นอย่างไร?
ตามมาตรฐานที่ระบุ ความคลาดเคลื่อนมีดังนี้: • ความหนาของผนัง (Wall Thickness): โดยทั่วไป ความหนา ณ จุดใดๆ ต้องไม่น้อยกว่า 12.5% ของความหนาที่ระบุ (Nominal Wall Thickness). • เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (Outside Diameter): สำหรับท่อ NPS 1 1/2" และเล็กกว่า จะมีความคลาดเคลื่อน ±1/64 นิ้ว ส่วนท่อ NPS 2" ขึ้นไป จะมีความคลาดเคลื่อน ±1%.
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับท่อเหล็ก
หมวด: มาตรฐานและศัพท์เทคนิค
มาตรฐานท่อเหล็ก ASTM A53 คืออะไร?
ASTM A53 เป็นมาตรฐานสำหรับท่อเหล็กคาร์บอนที่ใช้ในงานระบบเครื่องกลและงานที่ต้องรับแรงดัน. มาตรฐานนี้ครอบคลุมท่อทั้งแบบมีตะเข็บ (Welded, Type E) และไม่มีตะเข็บ (Seamless, Type S). สามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบท่อดำ (Black Pipe) และท่อชุบสังกะสี (Hot-Dipped Galvanized). ท่อตามมาตรฐานนี้เหมาะสำหรับงานเชื่อม, การดัดโค้ง, และการทำหน้าแปลน.
Schedule" (SCH) ของท่อเหล็กคืออะไร? เช่น SCH 40 และ SCH 80
Schedule (SCH) คือค่าที่ใช้กำหนดความหนาของผนังท่อ (Wall Thickness). เมื่อตัวเลข Schedule สูงขึ้น ความหนาของผนังท่อก็จะมากขึ้นสำหรับขนาดท่อ (NPS) เดียวกัน. ยกตัวอย่างเช่น ท่อ SCH 80 จะมีผนังหนากว่า, เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) เล็กกว่า, และน้ำหนักมากกว่าท่อ SCH 40 ที่ขนาด NPS เท่ากัน.
NPS และ DN คืออะไร?
NPS (Nominal Pipe Size) และ DN (Nominal Diameter) เป็นรหัสที่ใช้เรียกขนาดท่อ. • NPS เป็นระบบมาตรฐานของอเมริกาที่ใช้หน่วยเป็นนิ้ว. สำหรับท่อขนาด NPS 12 และเล็กกว่า เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (OD) จะมีค่ามากกว่าตัวเลข NPS. ส่วนท่อขนาด NPS 14 ขึ้นไป ค่า OD จะเท่ากับตัวเลข NPS. • DN เป็นระบบเมตริก (SI) ที่ใช้ในระดับสากล.
ท่อมีตะเข็บ (Welded/ERW) และไม่มีตะเข็บ (Seamless) ต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างหลักอยู่ที่กระบวนการผลิตและคุณสมบัติการใช้งาน: • ท่อมีตะเข็บ (ERW - Electric Resistance Welded): ผลิตโดยการนำแผ่นเหล็กมาม้วนแล้วเชื่อมติดกันตรงรอยต่อ. เหมาะสำหรับงานที่รับแรงดันไม่สูงมาก เช่น ท่อน้ำประปา, ท่อลำเลียงทั่วไป. ตามมาตรฐาน ASTM A53 Grade B รอยเชื่อมของท่อ ERW จะต้องผ่านการอบชุบด้วยความร้อน (Heat Treatment) เพื่อเพิ่มความทนทาน. • ท่อไม่มีตะเข็บ (Seamless): ผลิตโดยการเจาะแท่งเหล็กตันให้เป็นท่อกลวง ทำให้ไม่มีรอยเชื่อมต่อ. ด้วยเหตุนี้จึงมีความทนทานต่อแรงดันและความร้อนสูงได้ดีกว่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ระบบแก๊ส, น้ำมัน, ไอน้ำ, และระบบดับเพลิง.
หมวด: การเลือกใช้งาน
ASTM A53 Grade A และ Grade B ต่างกันอย่างไร ควรเลือกใช้อย่างไร?
Grade A และ Grade B แตกต่างกันที่ส่วนประกอบทางเคมีและคุณสมบัติเชิงกล ส่งผลให้การใช้งานแตกต่างกัน: • Grade B: มีปริมาณคาร์บอนและแมงกานีสสูงกว่า ทำให้มีความแข็งแรงทนทานสูงกว่า Grade A. มีค่า Yield Strength ขั้นต่ำ 35,000 psi (240 MPa) และ Tensile Strength ขั้นต่ำ 60,000 psi (415 MPa). เหมาะสำหรับงานที่เน้นการรับแรงดันและต้องการความแข็งแรงเป็นหลัก เช่น ระบบส่งไอน้ำ, ก๊าซ, น้ำมัน, และระบบท่อดับเพลิง. • Grade A: มีความเหนียว (Ductility) ดีกว่า และมีส่วนประกอบทางเคมีที่ "ปานกลาง" กว่า. มีค่า Yield Strength ขั้นต่ำ 30,000 psi (205 MPa) และ Tensile Strength ขั้นต่ำ 48,000 psi (330 MPa). เหมาะสำหรับงานที่ต้องมีการดัดเย็น, ม้วน, หรือขึ้นรูปอื่นๆ เป็นหลัก เช่น ระบบประปาและท่อระบายน้ำ.
ควรเลือกใช้ท่อ SCH 40 หรือ SCH 80 เมื่อไหร่?
การเลือกขึ้นอยู่กับแรงดันและการใช้งานเป็นหลัก: • SCH 40: เป็นความหนามาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในงานก่อสร้างและระบบท่อต่างๆ. เหมาะสำหรับงานที่รับแรงดันในระดับปกติ เช่น ระบบน้ำประปา, ระบบน้ำทิ้ง, และงานโครงสร้างเบา. • SCH 80: มีผนังท่อที่หนากว่า จึงสามารถรับแรงดัน (PSI) ได้สูงกว่า SCH 40 มาก. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานต่อแรงดันสูงเป็นพิเศษ หรือในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งจะทำให้ค่าการรับแรงดันของท่อลดลง.
ท่อเหล็กดำ (Black Pipe) กับ ท่อกัลวาไนซ์ (Galvanized Pipe) เลือกใช้อย่างไร?
• ท่อเหล็กดำ: คือท่อเหล็กคาร์บอนที่ไม่มีการเคลือบผิวป้องกันสนิม มีสีเข้มจากไอรอนออกไซด์. เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องสัมผัสน้ำหรือความชื้นโดยตรง เช่น ท่อส่งแก๊ส, ระบบดับเพลิง (เนื่องจากทนความร้อนได้ดี), หรือท่อในระบบทำความร้อน-ความเย็น. ไม่เหมาะกับงานประปาที่ใช้บริโภคเพราะเกิดสนิมได้ง่าย. • ท่อกัลวาไนซ์: คือท่อเหล็กที่ผ่านการ เคลือบสังกะสี เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและสนิม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสความชื้น เช่น ท่อน้ำประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ราวกันตก, และโครงสร้างภายนอกอาคาร. อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้กับท่อส่งแก๊สเพราะสังกะสีอาจหลุดร่อนไปอุดตันระบบได้.
ASTM A53 ใช้ในงานระบบดับเพลิงได้หรือไม่?
ได้ครับ ท่อ ASTM A53 เป็นหนึ่งในมาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับงานระบบดับเพลิง โดยเฉพาะ ท่อ ASTM A53 SCH 40. นอกจากนี้ สำหรับระบบดับเพลิงบางประเภท อาจใช้ ท่อเหล็กดำ SCH 10 ตามมาตรฐาน ASTM A795 ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับงานดับเพลิงโดยเฉพาะและได้รับการรับรองมาตรฐานสากล.
หมวด: คุณสมบัติและการทดสอบ
ท่อเหล็กตามมาตรฐาน ASTM A53 ต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง?
ท่อเหล็ก ASTM A53 ต้องผ่านการทดสอบที่สำคัญหลายอย่างเพื่อรับรองคุณภาพ ได้แก่: • การทดสอบแรงดันน้ำ (Hydrostatic Test): ท่อทุกเส้นต้องผ่านการทดสอบนี้เพื่อให้แน่ใจว่าไม่รั่วซึมภายใต้แรงดันที่กำหนด. • การทดสอบคุณสมบัติเชิงกล (Mechanical Tests): เช่น การทดสอบแรงดึง (Tensile Test) เพื่อวัดค่า Yield และ Tensile Strength, และการทดสอบการกดแบน (Flattening Test) หรือการดัดโค้ง (Bending Test) เพื่อประเมินความเหนียวและความสมบูรณ์ของรอยเชื่อม (สำหรับท่อ ERW). • การทดสอบแบบไม่ทำลาย (Nondestructive Electric Test): เช่น การใช้กระแสไหลวน (Eddy Current) เพื่อตรวจสอบรอยตำหนิที่ตะเข็บท่อ.
ค่าความคลาดเคลื่อน (Tolerance) ของความหนาและขนาดท่อเป็นอย่างไร?
ตามมาตรฐานที่ระบุ ความคลาดเคลื่อนมีดังนี้: • ความหนาของผนัง (Wall Thickness): โดยทั่วไป ความหนา ณ จุดใดๆ ต้องไม่น้อยกว่า 12.5% ของความหนาที่ระบุ (Nominal Wall Thickness). • เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (Outside Diameter): สำหรับท่อ NPS 1 1/2" และเล็กกว่า จะมีความคลาดเคลื่อน ±1/64 นิ้ว ส่วนท่อ NPS 2" ขึ้นไป จะมีความคลาดเคลื่อน ±1%.
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับท่อเหล็ก
หมวด: มาตรฐานและศัพท์เทคนิค
มาตรฐานท่อเหล็ก ASTM A53 คืออะไร?
ASTM A53 เป็นมาตรฐานสำหรับท่อเหล็กคาร์บอนที่ใช้ในงานระบบเครื่องกลและงานที่ต้องรับแรงดัน. มาตรฐานนี้ครอบคลุมท่อทั้งแบบมีตะเข็บ (Welded, Type E) และไม่มีตะเข็บ (Seamless, Type S). สามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบท่อดำ (Black Pipe) และท่อชุบสังกะสี (Hot-Dipped Galvanized). ท่อตามมาตรฐานนี้เหมาะสำหรับงานเชื่อม, การดัดโค้ง, และการทำหน้าแปลน.
Schedule" (SCH) ของท่อเหล็กคืออะไร? เช่น SCH 40 และ SCH 80
Schedule (SCH) คือค่าที่ใช้กำหนดความหนาของผนังท่อ (Wall Thickness). เมื่อตัวเลข Schedule สูงขึ้น ความหนาของผนังท่อก็จะมากขึ้นสำหรับขนาดท่อ (NPS) เดียวกัน. ยกตัวอย่างเช่น ท่อ SCH 80 จะมีผนังหนากว่า, เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) เล็กกว่า, และน้ำหนักมากกว่าท่อ SCH 40 ที่ขนาด NPS เท่ากัน.
NPS และ DN คืออะไร?
NPS (Nominal Pipe Size) และ DN (Nominal Diameter) เป็นรหัสที่ใช้เรียกขนาดท่อ. • NPS เป็นระบบมาตรฐานของอเมริกาที่ใช้หน่วยเป็นนิ้ว. สำหรับท่อขนาด NPS 12 และเล็กกว่า เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (OD) จะมีค่ามากกว่าตัวเลข NPS. ส่วนท่อขนาด NPS 14 ขึ้นไป ค่า OD จะเท่ากับตัวเลข NPS. • DN เป็นระบบเมตริก (SI) ที่ใช้ในระดับสากล.
ท่อมีตะเข็บ (Welded/ERW) และไม่มีตะเข็บ (Seamless) ต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างหลักอยู่ที่กระบวนการผลิตและคุณสมบัติการใช้งาน: • ท่อมีตะเข็บ (ERW - Electric Resistance Welded): ผลิตโดยการนำแผ่นเหล็กมาม้วนแล้วเชื่อมติดกันตรงรอยต่อ. เหมาะสำหรับงานที่รับแรงดันไม่สูงมาก เช่น ท่อน้ำประปา, ท่อลำเลียงทั่วไป. ตามมาตรฐาน ASTM A53 Grade B รอยเชื่อมของท่อ ERW จะต้องผ่านการอบชุบด้วยความร้อน (Heat Treatment) เพื่อเพิ่มความทนทาน. • ท่อไม่มีตะเข็บ (Seamless): ผลิตโดยการเจาะแท่งเหล็กตันให้เป็นท่อกลวง ทำให้ไม่มีรอยเชื่อมต่อ. ด้วยเหตุนี้จึงมีความทนทานต่อแรงดันและความร้อนสูงได้ดีกว่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ระบบแก๊ส, น้ำมัน, ไอน้ำ, และระบบดับเพลิง.
หมวด: การเลือกใช้งาน
ASTM A53 Grade A และ Grade B ต่างกันอย่างไร ควรเลือกใช้อย่างไร?
Grade A และ Grade B แตกต่างกันที่ส่วนประกอบทางเคมีและคุณสมบัติเชิงกล ส่งผลให้การใช้งานแตกต่างกัน: • Grade B: มีปริมาณคาร์บอนและแมงกานีสสูงกว่า ทำให้มีความแข็งแรงทนทานสูงกว่า Grade A. มีค่า Yield Strength ขั้นต่ำ 35,000 psi (240 MPa) และ Tensile Strength ขั้นต่ำ 60,000 psi (415 MPa). เหมาะสำหรับงานที่เน้นการรับแรงดันและต้องการความแข็งแรงเป็นหลัก เช่น ระบบส่งไอน้ำ, ก๊าซ, น้ำมัน, และระบบท่อดับเพลิง. • Grade A: มีความเหนียว (Ductility) ดีกว่า และมีส่วนประกอบทางเคมีที่ "ปานกลาง" กว่า. มีค่า Yield Strength ขั้นต่ำ 30,000 psi (205 MPa) และ Tensile Strength ขั้นต่ำ 48,000 psi (330 MPa). เหมาะสำหรับงานที่ต้องมีการดัดเย็น, ม้วน, หรือขึ้นรูปอื่นๆ เป็นหลัก เช่น ระบบประปาและท่อระบายน้ำ.
ควรเลือกใช้ท่อ SCH 40 หรือ SCH 80 เมื่อไหร่?
การเลือกขึ้นอยู่กับแรงดันและการใช้งานเป็นหลัก: • SCH 40: เป็นความหนามาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในงานก่อสร้างและระบบท่อต่างๆ. เหมาะสำหรับงานที่รับแรงดันในระดับปกติ เช่น ระบบน้ำประปา, ระบบน้ำทิ้ง, และงานโครงสร้างเบา. • SCH 80: มีผนังท่อที่หนากว่า จึงสามารถรับแรงดัน (PSI) ได้สูงกว่า SCH 40 มาก. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานต่อแรงดันสูงเป็นพิเศษ หรือในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งจะทำให้ค่าการรับแรงดันของท่อลดลง.
ท่อเหล็กดำ (Black Pipe) กับ ท่อกัลวาไนซ์ (Galvanized Pipe) เลือกใช้อย่างไร?
• ท่อเหล็กดำ: คือท่อเหล็กคาร์บอนที่ไม่มีการเคลือบผิวป้องกันสนิม มีสีเข้มจากไอรอนออกไซด์. เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องสัมผัสน้ำหรือความชื้นโดยตรง เช่น ท่อส่งแก๊ส, ระบบดับเพลิง (เนื่องจากทนความร้อนได้ดี), หรือท่อในระบบทำความร้อน-ความเย็น. ไม่เหมาะกับงานประปาที่ใช้บริโภคเพราะเกิดสนิมได้ง่าย. • ท่อกัลวาไนซ์: คือท่อเหล็กที่ผ่านการ เคลือบสังกะสี เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและสนิม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสความชื้น เช่น ท่อน้ำประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ราวกันตก, และโครงสร้างภายนอกอาคาร. อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้กับท่อส่งแก๊สเพราะสังกะสีอาจหลุดร่อนไปอุดตันระบบได้.
ASTM A53 ใช้ในงานระบบดับเพลิงได้หรือไม่?
ได้ครับ ท่อ ASTM A53 เป็นหนึ่งในมาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับงานระบบดับเพลิง โดยเฉพาะ ท่อ ASTM A53 SCH 40. นอกจากนี้ สำหรับระบบดับเพลิงบางประเภท อาจใช้ ท่อเหล็กดำ SCH 10 ตามมาตรฐาน ASTM A795 ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับงานดับเพลิงโดยเฉพาะและได้รับการรับรองมาตรฐานสากล.
หมวด: คุณสมบัติและการทดสอบ
ท่อเหล็กตามมาตรฐาน ASTM A53 ต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง?
ท่อเหล็ก ASTM A53 ต้องผ่านการทดสอบที่สำคัญหลายอย่างเพื่อรับรองคุณภาพ ได้แก่: • การทดสอบแรงดันน้ำ (Hydrostatic Test): ท่อทุกเส้นต้องผ่านการทดสอบนี้เพื่อให้แน่ใจว่าไม่รั่วซึมภายใต้แรงดันที่กำหนด. • การทดสอบคุณสมบัติเชิงกล (Mechanical Tests): เช่น การทดสอบแรงดึง (Tensile Test) เพื่อวัดค่า Yield และ Tensile Strength, และการทดสอบการกดแบน (Flattening Test) หรือการดัดโค้ง (Bending Test) เพื่อประเมินความเหนียวและความสมบูรณ์ของรอยเชื่อม (สำหรับท่อ ERW). • การทดสอบแบบไม่ทำลาย (Nondestructive Electric Test): เช่น การใช้กระแสไหลวน (Eddy Current) เพื่อตรวจสอบรอยตำหนิที่ตะเข็บท่อ.
ค่าความคลาดเคลื่อน (Tolerance) ของความหนาและขนาดท่อเป็นอย่างไร?
ตามมาตรฐานที่ระบุ ความคลาดเคลื่อนมีดังนี้: • ความหนาของผนัง (Wall Thickness): โดยทั่วไป ความหนา ณ จุดใดๆ ต้องไม่น้อยกว่า 12.5% ของความหนาที่ระบุ (Nominal Wall Thickness). • เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (Outside Diameter): สำหรับท่อ NPS 1 1/2" และเล็กกว่า จะมีความคลาดเคลื่อน ±1/64 นิ้ว ส่วนท่อ NPS 2" ขึ้นไป จะมีความคลาดเคลื่อน ±1%.

MITRSTEEL

MITRSTEEL

MITRSTEEL
โครงการ One Bangkok
ด้วยคุณภาพและความคุ้มค่าของสินค้าท่อเหล็กทนแรงดันภายใต้แบรนด์ MITR STEEL
สินค้าท่อเหล็ก ASTM A53 ได้ถูกนำเลือกนำไปใช้สำหรับงานท่อทนแรงดันในโครงการต่างๆมากมาย
พร้อมทั้งสามารถสร้างความเชื่อมั่นและความพอใจให้กับลูกค้า
ด้วยคุณภาพและความคุ้มค่าของสินค้าท่อเหล็กทนแรงดันภายใต้แบรนด์ MITR STEEL
สินค้าท่อเหล็ก ASTM A53 ได้ถูกนำเลือกนำไปใช้สำหรับงานท่อทนแรงดันในโครงการต่างๆมากมาย
พร้อมทั้งสามารถสร้างความเชื่อมั่นและความพอใจให้กับลูกค้า
Project reference















พร้อมสำหรับโครงการของคุณแล้วหรือยัง?
ขอใบเสนอราคาท่อเหล็กมาตรฐาน ASTM A53 หรือโทรปรึกษาวิศวกรทันที เพื่อเลือกสเปค และราคาที่เหมาะสมที่สุด

ขอใบเสนอราคาท่อเหล็กมาตรฐาน ASTM A53 หรือโทรปรึกษาวิศวกรทันที เพื่อเลือกสเปค และราคาที่เหมาะสมที่สุด

MITRSTEEL

MITRSTEEL

MITRSTEEL
ต้องการขอใบเสนอราคา
สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กอื่นๆ พร้อมกัน
ต้องการขอใบเสนอราคา
สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กอื่นๆ พร้อมกัน
ต้องการขอใบเสนอราคา
สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กอื่นๆ พร้อมกัน
เลือกสินค้าที่สนใจเพิ่มเติม และปรึกษาวิศวกรของเราได้ทันที
เลือกสินค้าที่สนใจเพิ่มเติม และปรึกษาวิศวกรของเราได้ทันที


บริษัท มิตรสตีล จำกัด (สำนักงานใหญ่)
159/88 หมู่ 8 ถ.เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์
อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270
โทร
อีเมล:
เวลาทำการ
66(0)-2047-9281-3
info@mitrsteel.com
8.00-17.00 น.
All right reserved.
Privacy Policy
Terms of Service
Cookies Settings
บริษัท มิตรสตีล จำกัด (สำนักงานใหญ่)
159/88 หมู่ 8 ถ.เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์
อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270
โทร
อีเมล:
เวลาทำการ
66(0)-2047-9281-3
info@mitrsteel.com
8.00-17.00 น.
All right reserved.
Privacy Policy
Terms of Service
Cookies Settings
บริษัท มิตรสตีล จำกัด (สำนักงานใหญ่)
159/88 หมู่ 8 ถ.เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์
อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270
โทร
อีเมล:
เวลาทำการ
66(0)-2047-9281-3
info@mitrsteel.com
8.00-17.00 น.
All right reserved.
Privacy Policy
Terms of Service
Cookies Settings





















