8 พ.ย. 2568
คู่มือคำนวณความหนาท่อ (Pipe Thickness Calculation) สำหรับวิศวกร ตามสูตร ASME B31.3 เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
สำหรับวิศวกรผู้ออกแบบ (Design Engineer) โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (Oil and Gas) หรือโรงงานกระบวนการผลิต (Process Piping) การกำหนดความหนาผนังท่อ (Wall Thickness) ที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญในการรับรองความปลอดภัยของระบบ การเลือกความหนาที่น้อยเกินไปอาจทำให้เกิดการแตกร้าวภายใต้แรงดันสูง ส่วนการเลือกความหนาที่มากเกินไปก็ส่งผลให้ต้นทุนโครงการสูงขึ้น
มาตรฐานที่ใช้กำกับดูแลการคำนวณความหนาท่อตรง (Straight Pipe) ภายใต้แรงดันภายใน (Internal Pressure) คือ ASME B31 Code for Pressure Piping โดยเฉพาะ ASME B31.3 (Process Piping) ซึ่งเป็น Code ที่ใช้กันทั่วไปในโรงกลั่น (Refinery)
เหตุผลที่ต้องใช้ ASME B31.3 ในการคำนวณท่อ ASTM A53
เมื่อความต้องการของระบบขึ้นอยู่กับความสามารถในการต้านทานแรงดันภายในภายใต้สภาวะที่กำหนด ผู้ออกแบบจะต้องคำนวณหาค่าความหนาผนังท่อที่แน่นอนตามที่กำหนดใน ASME B31 Code for Pressure Piping
ท่อเหล็กกล้าคาร์บอน (Carbon Steel Pipe) เช่น ASTM A53 Grade B เป็นวัสดุที่ระบุไว้ใน ASME B31.3 ซึ่งมักถูกเลือกใช้ในงานที่เน้นความแข็งแรงและความสามารถในการรับแรงดัน
สูตรพื้นฐานในการคำนวณความหนาท่อ (General Thickness Calculation) ถูกพัฒนามาจากสมดุลระหว่างแรงดันและแรงเค้นในท่อ
S=P×r/t
(โดย S คือ Radial Stress, P คือ Internal Pressure, r คือ Radius, และ t คือ wall thickness)
เจาะลึกสูตรคำนวณความหนาขั้นต่ำ t=PD/2(SEW+PY)
ตามมาตรฐาน ANSI B31.3 (หรือ ASME B31.3) ความหนาผนังท่อตรงขั้นต่ำ (minimum wall thickness) ภายใต้แรงดันและอุณหภูมิที่กำหนด ต้องไม่น้อยกว่าค่าที่กำหนดโดยสมการต่อไปนี้:
t=2(SEW+PY)PD
โดยตัวแปรแต่ละตัวมีความหมายสำคัญดังนี้:

การเพิ่มค่าเผื่อความปลอดภัย: Corrosion Allowance (c) และ Mill Tolerance
ความหนาผนังท่อที่คำนวณได้จากสูตรข้างต้น (t) คือความหนาที่ท่อต้องมีเพื่อต้านทานแรงดันเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติ วิศวกรต้องเพิ่มค่าเผื่อความปลอดภัยที่สำคัญอีก 2 ส่วน เพื่อให้ได้ความหนาขั้นต่ำที่จำเป็นต้องใช้ (Minimum Required Wall Thickness, tm) และความหนาที่มีประสิทธิภาพ (Effective Thickness, tef):
1. ค่าเผื่อการกัดกร่อน (Corrosion Allowance, c)
ความหนาขั้นต่ำที่ต้องการ (tm) ต้องรวมค่าเผื่อการกัดกร่อน (c) t_m = t + c โดย c คือ ค่าเผื่อการกัดกร่อน (Corrosion Allowance) ซึ่งมักถูกกำหนดโดยลูกค้า (Client) หรือขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น ความใกล้เคียงกับชายฝั่ง (Proximity of the coast) สำหรับงานในสภาพแวดล้อมที่กัดกร่อนสูง (เช่น Marine Environment) การกำหนดค่า c ที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญมาก.
2. ค่าเผื่อความคลาดเคลื่อนจากการผลิต (Mill Tolerance)
ท่อเหล็กทั่วไปมีค่าความคลาดเคลื่อนของความหนาที่ยอมให้ (Permissible Variations in Wall Thickness) โดยความหนาผนังขั้นต่ำที่จุดใดๆ จะต้องไม่ต่ำกว่าความหนาที่ระบุ (Nominal Wall Thickness) เกินกว่า 12.5%.
ดังนั้น ความหนาที่ต้องการ (tm) ควรถูกปรับเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับค่าความคลาดเคลื่อน 12.5% นี้ โดยเรียกความหนาที่ปรับแล้วว่า Effective Thickness (tef): t_{ef} = t_m \times \frac{1}{(1 - 0.125)} = t_m \times \frac{8}{7} หมายเหตุ: ค่าความคลาดเคลื่อน −12.5% นี้เป็นไปตามข้อกำหนดของท่อไร้ตะเข็บ (Seamless Pipe)
หลังจากคำนวณ tef แล้ว วิศวกรจะเลือก Schedule Number (เช่น SCH 40 หรือ SCH 80) จากตารางขนาดท่อ (เช่น ASME B36.10M Table 1) ที่มีค่าความหนาผนัง (Nominal Wall Thickness) มากกว่าหรือเท่ากับ tef.
การเลือก Schedule Number สำหรับท่อ ASTM A53 (SCH 40 vs SCH 80)
Schedule Number เป็นระบบกำหนดความหนาผนังท่อที่สะดวกในการสั่งซื้อ โดย Schedule Number ที่เพิ่มขึ้นหมายถึงความหนาผนังที่เพิ่มขึ้นด้วย:
• SCH 40 : เป็นความหนาที่ใช้กันทั่วไปในงานก่อสร้าง (Construction Work) โดยมีความหนาที่สมดุลระหว่างต้นทุน ความแข็งแรง และความง่ายในการติดตั้ง ท่อ ASTM A53 SCH 40 นิยมใช้ในงานระบบดับเพลิง (Fire Protection) และงานลำเลียงของเหลว/ก๊าซภายใต้แรงดันปานกลาง.
• SCH 80 : มีความหนาผนังที่มากกว่า SCH 40 สำหรับ NPS เดียวกัน ทำให้มีประสิทธิภาพในการรับแรงดันที่สูงกว่า และทนทานต่อความเครียดทางกล (Mechanical Strains) ได้ดีกว่า.
ข้อสำคัญสำหรับวิศวกร: Schedule Number นี้มีค่าประมาณเท่ากับ 1000 คูณด้วยอัตราส่วน P/S (แรงดันภายใน/ความเค้นที่ยอมให้) การคำนวณที่แม่นยำตามสูตร ASME B31.3 คือสิ่งจำเป็นในการกำหนด Schedule ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับท่อเหล็ก ASTM A53 ในโครงการของคุณ

คู่มือคำนวณความหนาท่อ (Pipe Thickness Calculation) สำหรับวิศวกร ตามสูตร ASME B31.3 เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
8 พ.ย. 2568

ถอดรหัสมาตรฐานท่อเหล็ก ASTM A53: Grade A และ B ต่างกันอย่างไร? ควรเลือกใช้ในงานระบบไหน
7 พ.ย. 2568

ครบจบในที่เดียว! ตารางเทียบขนาดและน้ำหนักท่อเหล็กดำ ASTM A53 (NPS, OD, Wall Thickness) ตามมาตรฐาน ASME B36.10M
14 พ.ย. 2568
ดูบทความทั้งหมด

