20 ธ.ค. 2568
การตรวจสอบคุณภาพท่อ SAW ด้วย NDT: แนวทางสำหรับผู้รับเหมาในการดำเนินการ UT, RT, และ Hydrostatic Test ให้ผ่าน 100%
อย่าให้ Material Test Report (MTR) ที่ไม่สมบูรณ์ กลายเป็นเหตุผลที่เจ้าของโครงการสั่งหยุดงานคุณ การผ่าน NDT 100% ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือการคัดกรองอย่างเข้มงวดตั้งแต่อยู่ในโรงงานผลิตที่ได้รับมาตรฐานสากล เพราะหากตรวจพบข้อบกพร่องหลังการติดตั้ง ต้นทุนในการแก้ไขจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
การตรวจสอบแบบ Non-Destructive Testing - NDT สำหรับท่อ SAW มี 3 เสาหลักที่ผู้รับเหมาต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด
1. Automated Ultrasonic Testing (AUT): ต้องตรวจครอบคลุมแนวเชื่อมเกลียว 100% เพื่อหาข้อบกพร่องภายใน เช่น การหลอมละลายไม่สมบูรณ์ (Lack of fusion)
2. Radiographic Testing (RT): ใช้ X-ray หรือ Gamma ray เพื่อยืนยันความสมบูรณ์ของจุดซ่อมรอยเชื่อมและจุดบอดของ UT
3. Hydrostatic Testing: ท่อทุกเส้นต้องผ่านการทดสอบแรงดันน้ำที่คำนวณตามปัจจัย Yield Strength และต้องกักแรงดันไว้ไม่น้อยกว่า 5-10 วินาทีโดยไม่มีการรั่วหรือเสียรูป การตรวจสอบเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อทำตามมาตรฐานเท่านั้น แต่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน (Operational Safety) การใช้เครื่องมือที่ได้รับการปรับเทียบ (Calibration) และเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการรับรองจะช่วยให้ผลการตรวจสอบมีความแม่นยำและเป็นที่ยอมรับของที่ปรึกษาโครงการ
ผู้รับเหมาที่เลือกใช้ท่อมาตรฐาน จะได้รับชุดเอกสารที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability) ถึงแหล่งกำเนิดเหล็กม้วน ซึ่งช่วยลดภาระการตรวจสอบซ้ำหน้างานและรับประกันว่างานจะผ่านการอนุมัติได้รวดเร็วขึ้น การมีเอกสาร MTR ที่ครบถ้วน ทั้งผลการวิเคราะห์ทางเคมี การทดสอบแรงดึง และรายงาน NDT รายเส้น จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับ Stakeholders และป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นหากเกิดความเสียหายในอนาคต นี่คือความแตกต่างระหว่างการทำงานแบบ "วัดดวง" กับการทำงานแบบมืออาชีพที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001
ขอรับตัวอย่างรายงานผลการทดสอบ NDT และใบรับรองเพื่อเปรียบเทียบมาตรฐานการผลิตและประหยัดเวลาในการขออนุมัติโครงการครั้งต่อไปของคุณ


